ม.174 ในกรณีต่อไปนี้ให้ถือว่าโจทก์ได้ ทิ้งฟ้อง คือ
(1) ภายกลังที่ได้เสนอคำฟ้องแล้ว โจทก์เพิกเฉยไม่ร้องขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้ส่งหมายเรียกให้แก้คดีแก่จำเลย และไม่แจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุแห่งการเพิกเฉยเช่นว่านั้น ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ได้ยื่นคำฟ้อง
(2) โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้เพื่อการนั้น โดยได้ส่งคำสั่งให้แก่โจทก์โดยชอบแล้ว
คำฟ้อง ตามมาตรา 174 รวมถึง ฟ้องแย้ง ฟ้องอุทธรณ์ ฟ้องฎีกา คำร้องขอในคดีไม่มีข้อพิพาท คำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ (ป.วิ.พ. มาตรา 288) และคำร้องสอดเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 (ป.วิ.พ. มาตรา 57)
การทิ้งฟ้องตามมาตรา 174(1) ไม่นำไปใช้ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา เพราะไม่มีการออกหมายเรียกให้อีกฝ่ายยื่นคำแก้อุทธรณ์หรือแก้ฎีกา มีแต่ส่งสำเนาอุทธรณ์หรือฎีกาให้เท่านั้น
เมื่อทิ้งฟ้องชั้นศาลใด ศาลนั้นเป็นผู้มีอำนาจสั่งจำหน่ายคดี การจะจำหน่ายคดีหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ศาลอาจจะให้เวลาโจทก์ต่อไปอีกก็ได้ หรืออาจจะชี้ขาดคดีไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา 133 ก็ได้ ถ้าศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ทิ้งฟ้องไปแล้ว เมื่อโจทก์มายื่นคำร้องแสดงเหตุผลอันสมควร ศาลชั้นต้นมีอำนาจไต่สวนคำร้องเพื่อทราบข้อเท็จจริง และมีอำนาจสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความนั้นเสียได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 และขยายเวลาให้โจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23
ทค.ว