คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4215/2563
โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ เมื่อโจทก์ชำระค่าซ่อมรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยเพื่อชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย
โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยที่มีอยู่ในมูลหนี้ต่อจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ต้องรับผิดต่อผู้เอาประกันภัยตาม ปพพ. ม. 880 วรรคหนึ่ง ประกอบ ม. 226 วรรคหนึ่ง
สิทธิของโจทก์ย่อมเป็นเช่นเดียวกับผู้เอาประกันภัย โดยเมื่อผู้เอาประกันภัยมีสิทธิฟ้องในมูลละเมิดภายในกำหนดอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน ตาม ปพพ. ม. 448 วรรคหนึ่ง
โจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยก็ต้องฟ้องคดีภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเช่นกันโจทก์นำคดีมําฟ้องวันที่ 28 สิงหําคม 2561 เกินกำหนดไป 1 วัน ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ
เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดในมูลความแห่งคดีอันเป็นกํารชำระหนี้ซึ่งแบ่งแยกจากกันมิได้ แม้จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การแต่ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นคู่ความร่วมกันได้ให้การต่อสู้ในเรื่องอายุความไว้
การดำเนินกระบวนพิจารณาซึ่งได้ทำโดยจำเลยที่ 2 ถือว่าได้ทำโดยจําเลยที่ 1 ด้วย ตาม ป.วิแพ่ง ม. 59 (1) และแม้จำเลยที่ 1 มิได้ฎีกาแต่เมื่อฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่ 1 ตาม ป.วิแพ่ง. ม. 245 (1) ประกอบมาตรา 252 ที่แก้ไขใหม่
<ทค ผ.>